โชเฟอร์รถบรรทุก ทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังจอดรอหน้าด่านช่องจอม จนถึงช่วงค่ำ
โชเฟอร์รถบรรทุกขนมันสำปะหลัง ทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังจอดรอหน้าด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ รอฟังข่าวอัปเดตเรื่องการปิดด่าน จนถึงช่วงค่ำ วันที่ 22 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มโชเฟอร์รถบรรทุก มาจอดรอคิวอยู่บริเวณหน้าด่าน เพื่อรอเดินทางข้ามไปฝั่งกัมพูชา และยังเช็กข่าวกันวุ่น หลังกระแสเตรียมปิดด่าน ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น โดยช่วงค่ำที่ผ่านมา พบว่าบรรดาโชเฟอร์รถบรรทุกขนมันสำปะหลัง ที่พากันมาจอดจองคิวรอข้ามแดนไปบรรทุกมันสำปะหลังที่กัมพูชา บริเวณถนนทางเข้าด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กว่า 40-50 คัน ต่างเริ่มทยอยพากันขับรถบรรทุกกลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว เหลือรถบรรทุกที่ยังจอดอยู่ประมาณ 10 คันเท่านั้น ซึ่งจากการสอบถามบรรดาโชเฟอร์รถบรรทุก ต่างบอกว่าด่านปิดแล้ว เลยพากันกลับ ขณะที่บางคนบอกว่า ยังไม่ชัดเจนจะขอนอนรอฟังข้อมูลที่แน่ชัดพรุ่งนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ทราบข้อมูลว่า บรรดาโชเฟอร์รถบรรทุกส่วนใหญ่ที่กลับกันนั้น เกิดจากความไม่แน่ใจ ว่าพรุ่งนี้ด่านจะเปิดหรือปิด และจะได้ข้ามแดนหรือไม่ เพราะเกรงว่าด่านจะเปิดแค่ให้รถบรรทุกมันที่ตกค้างฝั่งกัมพูชา ข้ามมาให้หมดก่อนเท่านั้น แล้วค่อยปิดด่านพรุ่งนี้บ่าย และมีโอกาสที่จะไม่อนุญาตให้รถบรรทุกที่จอดรอ ข้ามแดนออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะกลับข้ามแดนไม่ทันเวลาด่านปิด หรือมีโอกาสที่ทางกัมพูชาจะประกาศปิดด่านช่องจอมก่อนไทย เหมือนช่องสะงำ จึงมีโอกาสสูงที่จะไม่อนุญาตให้บรรดารถบรรทุกข้ามแดนไปกัมพูชาในวันพรุ่งนี้ก็เป็นไปได้ เมื่อข้อมูลไม่ชัดเจนและไม่แน่ใจ จึงตัดสินใจพากันนำรถบรรทุกกลับไปจอดไว้ที่บ้านก่อน รอความชัดเจนอีกครั้งจึงค่อยกลับมา เนื่องจากส่วนใหญ่บรรดาโชเฟอร์รถบรรทุก เป็นชาวสุรินทร์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมนัก ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบว่า ยังไม่มีหนังสือการปิดด่านมาถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แต่อย่างใด
ด้านนายมล ดิบประโคน อายุ 27 ปี โชเฟอร์รถบรรทุก ชาว อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จะกลับแล้ว เห็นเถ้าแก่บอกว่าจะปิดด่านแล้ว ให้กลับไปก่อน กลัวพรุ่งนี้เขาไม่ให้ข้าม อาจจะรอให้รถบรรทุกที่ตกค้างฝั่งกัมพูชาหลายสิบคันกลับขึ้นมาให้หมดก่อนถึงจะปิด ตนมาจอดลูกพ่วงจองคิวไว้ตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปวิ่งบรรทุกอะไร อาจจะหาอย่างอื่นรับจ้างบรรทุกไปก่อน ปกติจะวิ่งบรรทุกมันเกือบทั้งปี เพราะมันสำปะหลังกัมพูชามีตลอด ต้องกลับไปก่อน ถ้าชัดเจนยังไงค่อยวิ่งกลับมา เพราะบ้านอยู่ อ.ปราสาท ไม่ไกลเท่าไหร่
ที่มา : ไทยรัฐ