โจรตีเนียน อ้างเป็น “เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า” แอบเข้ามาตัดสายไฟภายในปั๊มน้ำมัน
เตือนภัยโจรตีเนียน อ้างเป็น “เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า“ แอบเข้ามาตัดสายไฟภายในปั๊มน้ำมันร่าง “เด็กปั๊ม” มาเจอรีบขับรถบึ่งหนีหายลอยนวล จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ศรีสะเกษ SisaketToday กลุ่มเสรี ว่า “ฝากเตือนภัยกับบุคคลอันตรายคนนี้ด้วยครับ ได้ไปขโมยตัดสายไฟที่ปั๊มเก่าบ้านเพียนามเก่าเส้นไปถนนอุทุมพร ตอนนี้ทางตำรวจกำลังตามตัวอยู่ครับ ใครพบเจอแจ้งไปที่ สภ.ศรีสะเกษด้วยครับ ขอบคุณครับ” ล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง (ปั๊มเก่า) อยู่ที่บ้านเพียนาม ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ได้พบกับ นางจีรณัฐ แสงทอง อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นเด็กปั๊มน้ำมันและเป็นหนึ่งในคนดูแลปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ได้พาไปดูจุดที่คนร้ายในคลิปเข้ามาตัดสายไฟ และพาไปดูความเสียหายจากกลุ่มโจรที่เข้ามาขโมยทั้งสายไฟ เหล็ก และสิ่งของอื่นๆ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ซึ่งตั้งแต่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ปิดตัวลง มีโจรเข้ามาขโมยโดยไม่ขาดสาย นางจีรณัฐเผยว่า ปั๊มน้ำมันแห่งนี้เป็นปั๊มน้ำมันเก่าที่ไม่ได้เปิดบริการแล้ว แต่เปิดเป็นที่พักให้กับเด็กปั๊มน้ำมันได้พักอาศัย และช่วยกันดูแลปั๊มน้ำมันแห่งนี้ โดยตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.00 น. ตนอยู่กับพี่ร่วมงานกัน 2 คน และกำลังจะนอนพักผ่อนกัน แต่อยู่ๆ ไฟฟ้าก็ดับ ตนเลยโทรศัพท์ไปแจ้งการไฟฟ้าว่าแถวนี้มีการดับไฟหรือไม่ แต่การไฟฟ้าบอกว่าไม่มีการดับไฟฟ้าแถวนั้น ลองไปดูตรงตู้ไฟดูว่าเบรกเกอร์ตัดหรือไม่ ตนเลยเดินไปดูกับพี่ร่วมงาน พอไปถึงก็ไปเจอรถจักรยานยนต์จอดอยู่ ทั้งนี้ ยังมีชายแปลกหน้ากำลังตัดสายไฟอยู่ จึงตะโกนถามชายแปลกหน้าว่าเป็นใคร เข้ามาทำอะไร แต่ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวก็อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มีคนให้มาตัดสายไฟ ตนพยายามจะให้ชายแปลกหน้าอยู่รอเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ชายแปลกหน้าก็รีบขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบออกไปจากจุดเกิดเหตุอย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพฤติกรรมของชายแปลกหน้านั้น จะมีความชำนาญในการตัดสายไฟฟ้ามาก โดยจะเข้ามาขโมยสายไฟที่แห่งนี้หลายครั้ง จึงอยากจะขอประชาสัมพันธ์ถ้าใครพบเห็นชายคนดังกล่าวสามารถแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษได้ เพราะเป็นการช่วยกันจับกุมไม่ให้ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวไปก่อเหตุกับคนอื่นๆ อีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเก็บหลักฐาน และสายไฟที่ถูกตัดไปเป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งจะประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ให้เร่งติดตามชายแปลกหน้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป