แม่เศร้าใจ ลูกชายคนโตดับคาสวนยาง พบมือฆ่าคือลูกชายอีก 2 คน และหลาน
แม่ทุกข์หนัก “ลูกชายคนโต” ทาสยา ดับคาสวนยาง ฝีมือลูกชายอีก 2 คน และหลานร่วมกันฆ่า พ้อต้องเสียลูกชายทั้ง 3 เพราะยาเสพติด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. 4 มิ.ย. 68 ร.ต.อ.ประภาษ เยินสูงเนิน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี รับแจ้งพบศพชายเสียชีวิตบริเวณสวนยางพารา บ้านหนองแปน ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.นิรันดร แก้วภักดี ผกก.สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.นิรุตติ์ สีหานาม รองผกก.สส.สภ.ห้วยข่า ทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบุณฑริก และสั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพารา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณถนนทางเข้า พบร่างนายสมพราน โคตรสุวรรณ์ อายุ 33 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ นอนคว่ำหน้าบริเวณทางเข้าสวนยางพารา มีบาดแผลบริเวณใบหน้าและท้ายทอย มีเลือดออกจำนวนมาก ใกล้กันพบกระท่อมชั้นเดียวยกสูง 1 หลัง มีนายพร (นามสมมุติ) พ่อของนายสมพราน ผู้ตาย ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ จากการสอบถามนายพร ให้การว่า ผู้ตายเป็นลูกชายมาหาตนช่วงเช้ามืด (4 มิ.ย.) ซึ่งในขณะนั้น มีนายโกเมนทร์ หรือ เบียร์ อายุ 30 ปี ลูกชายคนที่ 2 นายกล้า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกชายคนสุดท้อง และนายอภิชาติ หรือ บาส อายุ 21 ปี หลานชาย มาเก็บก้อนยางที่สวนยางไปขาย แต่ไม่ทราบว่าใครทำร้ายนายสมพรานจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ออกติดตามตัว นายโกเมนทร์ นายกล้า และ นายอภิชาติ จนพบตัวอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุนำตัวมาสอบสวน ซึ่งในช่วงแรกทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธไม่รู้เห็นการตายของนายสมพราน แต่ทั้งหมดให้การที่มีพิรุธ จึงได้ทำการแยกสอบ จนทั้ง 3 คน จำนนด้วยคำซัดทอด และรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือทำร้ายนายสมพรานจริง แต่ไม่มีเจตนาฆ่า
จากการสืบสวนสาเหตุแรงจูงใจ พบว่านายสมพราน มีพฤติกรรมติดยาเสพติด มักจะลักขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านไปขาย ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ นายสมพรานได้แอบขโมยข้าวเปลือกของนางอานนท์ ผู้เป็นแม่ไปขาย ขณะที่ก่อเหตุมีนายอภิชาติ หลานชายเห็นเหตุการณ์ จึงได้ถ่ายรูปเอาไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สามารถตกลงกันได้ จึงไม่ได้มีการจับกุม
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้ามืดวันเกิดเหตุ (4 มิ.ย.) นายสมพรานได้เข้าไปขอเงินจากนางอานนท์ ผู้เป็นแม่ 200 บาท แต่นางอานนท์ไม่มีให้ นายสมพรานจึงได้ขับรถมาขอเงินพ่อที่นอนป่วยโควิดที่สวนยาง ซึ่งเป็นจังหวะที่นายโกเมนทร์ นายกล้า และ นายอภิชาติ เก็บก้อนยางใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่อจะเอาไปขาย
นายสมพรานจึงได้ขอติดรถไปด้วย เพื่อจะเอาเงินส่วนแบ่งจากการขายยางพารา แต่นายโกเมนทร์ไม่ยอม นายสมพรานจึงได้เอามีดที่พกมาวิ่งไล่แทงนายอภิชาติ ซึ่งมีความโกรธแค้นเรื่องที่นายอภิชาติ แจ้งตำรวจก่อนหน้า และไล่แทงนายโกเมนทร์ นายกล้า วิ่งหนีกระเจิงไปคนละทาง ก่อนที่นายสมพรานจะวิ่งกลับมาที่รถจักรยานยนต์เพื่อหนี
ซึ่งนายกล้าหยิบท่อนไม้ในที่เกิดเหตุ ฟาดเข้าที่ท้ายทอยนายสมพราน 1 ครั้ง นายสมพรานพยายามที่จะลุกเอามีดออกมาแทงนายกล้า นายโกเมนทร์จึงได้เอาจอบที่อยู่บริเวณกระท่อม ตีหัวนายสมพราน 1 ครั้ง นายสมพราน นอนแน่นิ่งหมดสติ จากนั้นนายอภิชาติจึงได้เอาจอบและท่อนไม้ไปทิ้ง และเข้าไปบอกพ่อ ว่าตีกันกับนายสมพราน แต่นายพรไม่ได้ออกมาดู เพราะป่วยลุกไม่ขึ้น
ด้านนางอานนท์ ผู้เป็นแม่ ให้สัมภาษณ์ว่า นายสมพรานติดยาบ้ามานาน มีอาการป่วยทางจิตเวช แต่ยังพูดรู้เรื่อง เคยเอาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอให้ยามากิน อาการก็ดีขึ้น แต่เวลาที่อาการดีขึ้น นายสมพรานก็จะเสพยาบ้า เมื่อมีอาการทางจิต นายสมพรานก็จะทานยาโรงพยาบาล สลับไปมา ยอมรับว่านายสมพรานเองก็จะมีนิสัยชอบลักขโมย ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านบ่อยครั้ง
ส่วนครั้งนี้ตนเองก็ไม่คิดว่าลูกชายคนกลาง คนเล็ก และหลาน จะก่อเหตุฆ่านายสมพราน แต่ก็เข้าใจ เศร้าที่สุดคือตนเองก็ต้องเสียลูกชายทั้งหมด 3 คน เพราะยาเสพติด คนโตตายเพราะยาบ้า อีก 2 คนต้องติดคุกเพราะฆ่าคนติดยาบ้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ส่วนร่างของนายสมพราน ญาติได้รับมาจากแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ไปเข้าอุโมงค์เก็บร่างไว้ 3 ปี ตามประเพณีอีสาน ก่อนจะนำมาประกอบพิธีอีกครั้ง
ที่มา : ไทยรัฐ