เตรียมจำลองเหตุการณ์ สาวตกรถดับปริศนา หลังทะเลาะแฟนตำรวจ โดนข้อหาหนักเจตนาฆ่าฯ

เตรียมจำลองเหตุการณ์

เตรียมจำลองเหตุการณ์ สาวตกรถดับปริศนา หลังทะเลาะแฟนตำรวจ
โดนข้อหาหนักเจตนาฆ่าฯ

เตรียมจำลองเหตุการณ์

ระนอง เตรียมจำลองเหตุการณ์พิสูจน์ความจริง กรณีสาววัย 24 ทะเลาะแฟนตำรวจ ก่อนตกรถเสียชีวิตปริศนา พบข้อมูลผู้เสียชีวิตแอบส่งพิกัดให้เพื่อนทราบเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งแอบเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนได้ยินด้วยว่ามีอะไรเกิดขึ้นในรถ ขณะที่ผลตรวจสารเสพติด หมู่โอม เป็นบวก พบมีสารแอมเฟตามีน

ความคืบหน้าคดีแฟนสาว ส.ต.ท. ตกรถเสียชีวิตปริศนา หลังมีปากเสียงกับฝ่ายชาย เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ สภ.เมืองระนอง พ.ต.อ.ธวัชชัย ซุ้นเจริญ ผกก.สภ.เมืองระนอง เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สอบปากคำพยาน เพื่อนหญิงของผู้เสียชีวิต และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแล้ว เพื่อขอข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น และตรวจสอบว่าปมเหตุที่แท้จริงเกิดจากเรื่องใด

และ พฐ. ต้องเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งภายในและภายนอกรถกระบะของสิบตำรวจโท กิตติภูมิ หรือหมู่โอม อายุ 24 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ระนอง หลังจากที่ นางสาวธันยธร หรือ เอิร์น อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาว กระโดดออกมาจากรถ ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต บนถนนเลียบคลองหาดส้มแป้น ตรงประตูทางออก ด้านหลังที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง ในคืนวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งเก็บดีเอ็นเอตามจุดต่าง ๆ ส่งไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบการคลี่ปมเหตุที่เกิดขึ้น ชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่าหลังจาก สิบตำรวจโท กิตติภูมิ พาแฟนสาวกลับจากสถานบันเทิง ที่ไปนั่งปรับความเข้าใจกัน เนื่องจากทะเลาะกันประจำ ทั้ง 2 คน ก็มีปัญหากัน ทำให้แฟนสาวเดินออกจากรถ และ สิบตำรวจโท กิตติภูมิ ได้เข้าไปกระชาก แล้วพาขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลังในรถกระบะคันเกิดเหตุ จากนั้นก็ขับออกไปด้วยความเร็ว และระหว่างทางก็มีปากเสียงกันตลอด แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใช้ความเร็วเท่าใด

โดยผู้เสียชีวิตก็แอบส่งพิกัดให้เพื่อนทราบเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งแอบเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนได้ยินด้วยว่ามีอะไรเกิดขึ้นในรถ ส่วนคำให้การ สิบตำรวจโท กิตติภูมิ พนักงานสอบสวน ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด ซึ่งต้องพิสูจน์และคลี่ปมทีละประเด็น ก่อนจะสรุปว่า เป็นอุบัติเหตุที่ตั้งใจกระโดดออกจากรถ หรือฆาตกรรมอำพราง พนักงานสอบสวนบอกว่า อาจจะต้องมีการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงตามที่ได้ข้อมูลมา และคำให้การของพยาน โดยจะใช้รถกระบะคันเกิดเหตุ และใช้ความเร็วตามที่รถวิ่งไปตามถนนเลียบคลองหาดส้มแป้น ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ในระดับเดียวกับช่วงเกิดเหตุ ซึ่งกำลังตรวจสอบจาก GPS ว่าขณะนั้นใช้ความเร็วเท่าใด นอกจากนี้ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่สำคัญเพิ่มเติมอย่างกล้องวงจรปิด จุดที่สำคัญ 3 จุด พบว่า จุดที่ 1. บริเวณแยกซอยประปา จะเห็นว่าผู้ตายมีการลงจากรถและแฟนหนุ่มพยายามผลักขึ้นรถกึ่งบังคับผู้ตาย 2. บริเวณจุดเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองหาดส้มแป้น เป็นจุดที่เห็นรถกระบะเคลื่อนตัวช้า ๆ และผู้ตายพยายามเปิดประตูรถ นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้ตายมีเจตนาที่ไม่อยากขึ้นรถไปกับแฟนหนุ่ม และ 3. บริเวณประตูหลังที่ว่าการอำเภอเมืองระนอง

ทางพ่อและแม่ของสิบตำรวจโท กิตติภูมิ หรือหมู่โอม ได้ออกมาจากห้องสอบสวน ทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับคนเป็นพ่อและแม่ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นพ่อ และแม่นั้นทราบเรื่องเป็นคนแรกจริงหรือไม่ แต่ทางคนเป็นพ่อนั้นบอกแค่ว่า “ลูกชายโทรศัพท์ติดต่อมาบอกจริงในคืนเกิดเหตุ” แต่พอทีมข่าวถามต่อว่า แล้วลูกชายได้บอกหรือไม่ว่าแฟนสาวเขาเสียชีวิตแล้ว ทางคุณพ่อจึงนิ่งเงียบ และรีบเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ตอบคำถามอะไรต่อ ส่วนคนเป็นแม่ได้แต่เดินตามหลังพ่อของหมู่โอม ลักษณะสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดและก้มหน้าตลอดเวลาและไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อ

จากนั้นพ่อและแม่ของหมู่โอม ได้เข้าไปพูดคุยกับทางตำรวจเรื่องทางคดี เล่าว่า หลังจากช่วงเกิดเหตุในคืนนั้น จู่ ๆ ลูกชายได้โทรมาแจ้งเรื่องกับตนเองให้ทราบว่า เอิร์นได้กระโดดตกรถ ตนเองพอได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินทางกันไปที่เกิดเหตุตามที่ลูกชายแจ้ง ไปถึงก็พบว่า เอิร์นแฟนสาวของลูกชายเสียชีวิตคาที่แล้ว ระหว่างนั้นพบว่าลูกชายก็อยู่ในอาการเครียดกังวล หน้าตาซึมเศร้าตลอดเวลา และไม่ได้เล่าอะไรให้ตนเองฟังมากนัก

เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ตนเองยอมรับว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมจะดูแลช่วยเหลือชดใช้เยียวยาทุกอย่างให้กับทางครอบครัวแฟนสาวของลูกชาย เบื้องต้นตอนนี้ตนเองก็ได้มีการพูดคุยติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือกับทางแม่ของผู้เสียชีวิตแล้ว รายงานข่าวแจ้งว่า สิบตำรวจโท กิตติภูมิ หรือหมู่โอม ผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์เป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนสารเสพติดที่พบในตัวของหมู่โอม เป็นบวก มีสารแอมเฟตามีน (Amphetamine) สารเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการโดยประมาท (ขับรถยนต์) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และฆ่าผู้อื่นโดยมีเจตนาเล็งเห็นผล จากนั้นถูกคุมตัวไปฝากขังตามขั้นตอนกฎหมาย

ที่มา : ไทยรัฐ