ตำรวจฝากขัง หนุ่มโปแลนด์ ฆ่าหั่นศพแฟนสาว เจ้าตัวยังปิดปากเงียบ
ตำรวจฝากขัง ตำรวจวัดพระยาไกร คุมตัว หนุ่มโปแลนด์ ฆ่าหั่นศพแฟนสาว หมกคอนโดกลางกรุง ส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผกก.เผยประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตโปแลนด์ ร่วมสอบปากคำ เจ้าตัวยังไม่ยอมให้การ อ้างขอให้การชั้นศาล จากกรณีเมื่อวันที่ 15พ.ค.2566 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งพบศพ น.ส.อโลนา ซาฟเชนโก อายุ 25 ปี สัญชาติยูเครน ถูกฆ่าหั่นศพ อยู่ในห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. ส่วนผู้ต้องสงสัยเป็นแฟนหนุ่มชื่อ นายลาโกดา ฟิลิปโปว์ อายุ 25 ปี สัญชาติโปแลนด์
เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมาเช่าห้องดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย และเมื่อช่วงเที่ยง ฝ่ายชายได้เก็บกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถแท็กซี่ออกจากที่พักไป โดยว่าจ้างแท็กซี่ 1,500 บาท ไปส่งยังชายแดน จ.สระแก้ว
ต่อมาชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวนนครบาล 5 ชุดสืบสวนสน.วัดพระยาไกร ประสานชุดสืบสวนจ.สระแก้ว จับกุมนายฟิลิปโปว์ ได้บริเวณชายแดนด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่สน.วัดพระยาไกร
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 พ.ค.ที่ สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายฟิลิปโปว์ ไว้ภายในห้องขัง โดยผู้ต้องหาไม่ได้มีอาการผิดปกติหรือมีอาการเครียด คงนอนหลับได้ตามปกติ และเมื่อช่วงเช้านี้ก็รับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ และยังมีการออกกำลังกายอยู่ในห้องขัง
และได้ร้องขอให้ประสานเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งในช่วงสายของวันนี้ เตรียมเชิญเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูตโปแลนด์ มาร่วมสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน ก่อนนำตัวส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ ในช่วงบ่ายของวันนี้
ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นฯ ทั้งนี้จากการสังเกตผ่านภาพวงจรปิดตัวผู้ต้องหาเดินไปมาอยู่ภายในห้องขัง มีสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้มีท่าทีที่เครียดแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.วาทิตย์ โรจนไพฑูรย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ร่วมกันสอบปากคำ ใช้เวลาสอบสวนกว่า 1 ชั่วโมง
กระทั่งเวลา 13.00 น. ทางพนักงานสอบสวน ได้นำตัวนายฟิลิปโปว์ ขึ้นรถไปส่งฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน พ.ต.อ.วาทิตย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหามีอาการเครียดและไม่ขอให้การใดๆใน ชั้นสอบสวน จะขอให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียว และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อจะหลบหนีเข้าในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดถึงใช้เส้นทางนี้ ทั้งนี้พบว่าสุขภาพจิตปกติดี จึงนำตัวส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
