ตำรวจทลายโกดัง ลักลอบนำเข้าสารเคมีหนีภาษี 11 รายการ กว่า 2,000 กระสอบ

ตำรวจทลายโกดัง

ตำรวจทลายโกดัง ลักลอบนำเข้าสารเคมีหนีภาษี 11 รายการ กว่า 2,000 กระสอบ

ตำรวจทลายโกดัง

“ตำรวจสอบสวนกลาง” ทลายโกดัง แอบลักลอบนำเข้าสารเคมีหนีภาษี 11 รายการ จำนวนกว่า 2,000 กระสอบ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง อาคาร 9 หมู่ที่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 379 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากรฯ ของกลางที่พบ สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศเป็นประเภทของสารเคมี ประมาณ 2,000 กระสอบ โดยผู้ต้องหา น.ส.เฉียนชุ่นฯ (QIANSHUN) สัญชาติจีน

พฤติการณ์เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นได้ทำการสืบสวนทราบว่า โกดังสินค้าแห่งหนึ่ง อาคาร 9 หมู่ที่ 8 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชน จึงได้ทำการขอหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 379 ลงวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เพื่อเข้าตรวจค้นและตรวจสินค้าโดยละเอียด

เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นเข้าตรวจค้น พบ Mr.Zhang สัญชาติจีน อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวและเป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ประเภทสารเคมี 11 รายการ จำนวนกว่า 2,210 ถุง ซึ่ง Mr.Zhang รับว่าเป็นผู้ดูแลโกดังดังกล่าว และต่อมาไม่สามารถแสดงเอกสารการนำเข้าและการชำระภาษีศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกตรวจค้นและยึดสินค้าดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งแก่ผู้ต้องหาว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากรฯต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว และ น.ส.เฉียนชุ่นฯ (QIANSHUN) สัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของสินค้าทั้งหมด และไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษีอากรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

ที่มา : ไทยรัฐ