ดักฆ่าโหด คนเฝ้าไร่ข้าวโพด ไปดูลวดสลิง กันช้างป่าบุก มุ่งปมส่วนตัว
ล่ามือปืนลูกซองซุ่มยิงคนเฝ้าไร่ดับสยอง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้าไปดูแนวเขตที่ขึงลวดสลิงปล่อยกระแสไฟฟ้ากันวัวและช้างป่าที่มักลงมาหากินทำลายพืชผลเสียหาย กระทั่งชาวบ้านผ่านมาพบศพ ตอนแรกเข้าใจว่าโดนช้างกระทืบตาย รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์เจอรอยกระสุนพรุน พุ่งปมขัดแย้งกลุ่มคนเลี้ยงวัว ตำรวจล่ามือปืนแอบซุ่มยิงคนเฝ้าไร่ดับสยอง เปิดเผยเช้าวันที่ 5 เม.ย. พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.ฉัฐภูมิ วิทยาเกษมพงษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ลาดหญ้า และ พ.ต.ท.ศุภัทรวุฒิ กิ้มแสง สว.สส.สภ.ลาดหญ้า นำกำลังร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จ.กาญจนบุรีและภาค7 ลงพื้นที่ติดตามคนร้ายลอบยิงนายโชคชัย มณีวงค์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตบริเวณไร่ข้าวโพด หมู่ 2 บ้านท่ามะนาว ต.วังด้ง
สืบเนื่องจากช่วงสายวันที่ 4 เม.ย. ร.ต.ท.วิษณุ ศิริทร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในไร่ข้าวโพดบ้านท่ามะนาว หมู่ 2 บ้านท่ามะนาว ต.วังด้ง ไปตรวจสอบพร้อมนายมานะ เพิ่มพูน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กู้ภัยมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่ และแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา พบศพนายโชคชัย มณีวงค์ อายุ 64 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองใกล้กันพบรถ จยย.วิบากจอดอยู่ บริเวณหน้าอกและลำตัวพบรอยกระสุนลูกซองรวม 7 รู สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายโชคชัย ผู้ตายเป็นลูกจ้างเฝ้าไร่ที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุขี่รถ จยย.ไปตรวจตราแนวเขตที่มีการวางลวดสลิงกันวัวของชาวบ้าน รวมถึงบริเวณดังกล่าวมักมีช้างป่าออกมาหากินทำลายพืชผลเสียหายเป็นประจำ กระทั่งชาวบ้านไปพบศพนายโชคชัยนอนแน่นิ่ง ตอนแรกคิดว่าโดนช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนถูกช้างกระทืบตายมาแล้วหลายราย แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบรอยถูกยิง
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรีเก็บหลักฐานบริเวณรอบจุดเกิดเหตุพบเชือกไนลอน หมอนรองลูกปืนลูกซอง และลวดสลิงที่ใช้สำหรับขึงกันวัวตกอยู่ในป่า ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 15 เมตร เจ้าหน้าที่เก็บรอยนิ้วมือแฝงติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นพุ่งปมเรื่องขัดแย้งกับกลุ่มคนเลี้ยงวัวในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมักมีวัวรุกล้ำเข้าไปในไร่ที่ผู้ตายดูแลอยู่จนต้องวางลวดสลิงปล่อยกระแสไฟฟ้ากันไว้
ด้านนายวีระ มณีวงค์ อายุ 54 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า ปกติพี่ชายมาเฝ้าไร่แห่งนี้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะเดินตรวจดูลวดสลิงขึงไว้ตลอดแนวเขตเพื่อกันสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน โดยเฉพาะวัวที่เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อยหากินตามป่าเขามีอยู่หลายฝูง คาดว่าคนร้ายรอจังหวะที่ผู้ตายลงไปดูเส้นลวดซุ่มยิง หลังโดนยิงพี่ชายพยายามจะหนีและล้มลงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่อยากไปปรักปรำกล่าวหาใคร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
ที่มา : ไทยรัฐ