ดราม่า รถฉุกเฉิน รีบไปผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่ง แต่โดนใบสั่งขับเร็วเกิน 80 กม./ชม.
ลำปาง – รถฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพ สมาคมกู้ภัยเสริมงาม สุดงงเจอใบสั่งตำรวจทางหลวง ใช้ความเร็วเกินกำหนด ในระหว่างนำผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่ง ส่ง รพ.สวนปรุง ทั้งที่เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง เพื่อบ่งบอกว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ วอนผู้รู้ช่วยแนะแนวทาง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้กู้ภัยต้องงงและต่างตั้งคำถามกันว่าจะต้องทำยังไง หลังรถฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพ สมาคมกู้ภัยเสริมงาม ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ลำปาง) ส่งมาหายังผู้ครอบครองรถ โดยแจ้งว่าเหตุเกิดที่บนถนนลำปาง-เชียงใหม่หมายเลข 11 ถนนขาขึ้น เขตอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ถูกตรวจจับความเร็วได้ที่ 118 กม./ชม. วันที่ 13 มกราคม 2568 และต้องไปจ่ายเสียค่าปรับ 500 บาท จากการสอบถามนายอัษฎากรณ์ แก้วปัญญา หัวหน้าชุดปฏิบัติการฉุกเฉินสมาคมกู้ภัยเสริมงาม ทราบว่า วันที่เกิดเหตุ คือ เย็นวันที่ 13 มกราคม 2568 สมาคมกู้ภัยเสริมงาม ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเสริมงาม ขอนำส่งผู้ป่วยจิตเวชส่งที่โรงพยาบาลสวนปรุงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำตัวไปรักษาโดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่าได้ทำการฉีดยาสลบให้ผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันการคลุ้มคลั่ง และให้ทางกู้ภัยเสริมงามจะต้องรีบนำส่ง เนื่องจากมีระยะเวลาช่วงที่ยาออกฤทธิ์เท่านั้น และหากยาหมดฤทธิ์ คนไข้อาจจะกลับมาอาละวาดอีกได้ กู้ภัยเสริมงามจึงได้ใช้ความเร็วระดับหนึ่ง เพื่อนำส่งผู้ป่วยให้ทันที่หมายปลายทาง พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง เพื่อบ่งบอกว่ากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับจดหมายจากตำรวจทางหลวง ว่ารถกู้ภัยได้ฝ่าฝืนกฎหมาย คือขับเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยใช้ความเร็วที่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในท้องที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน และจะต้องไปเสียค่าปรับ 500 บาท จึงเกิดข้อสงสัยว่าจะต้องทำอย่างไรและต้องไปจ่ายค่าปรับหรือไม่หรือมีแนวทางไหนจะช่วยกู้ภัยอย่างไรได้บ้าง เพราะทุกครั้งที่กู้ภัยออกเหตุ หรือส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วและกู้ภัยส่วนใหญ่เป็นจิตอาสา หากเจอแบบนี้บ่อยๆ จะทำอย่างไร จึงอยากสอบถามผู้รู้ให้แนะแนวทางให้ด้วย