คุมตัวทำแผน “ผัวโหด” บุกกระหน่ำแทงเมีย 8 แผล ดับสลด ญาติร่ำไห้ขอให้ประหาร
คุมตัวทำแผน “ผัวโหด” ง้อเมียไม่สำเร็จ บุกกระหน่ำบ้านแทง 8 แผล ดับสลด อ้างโมโหที่ถูกเร่งรัดให้จดทะเบียนหย่า ด้านญาติคนตายร่ำไห้ ตะโกนร้องขอให้มีการประหาร จากกรณีที่ เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.นราศักดิ์ นนทะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ อดีตสามีบุกมาแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในหมู่บ้านศรีวิไล ต.บ้านจั่น จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี กู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านจั่น อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ ที่ห้องโถงของบ้านพบศพ น.ส.สุกัญญา มีสัตย์ธรรม หรือ เบียร์ อายุ 33 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิต มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามร่างกายหลายแห่ง ประมาณ 8 แผล โดยเฉพาะที่บริเวณคอเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองเต็มพื้น ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้ทำการ CPR เพื่อยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายฤทธิพร ปะนัดเท หรือ ท็อป อายุ 32 ปี อดีตสามี หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเวลา 13.50 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าหลังก่อเหตุ นายท็อป ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านจั่น จึงนำกำลังไปจับกุม นายท็อป ซึ่งเสื้อที่สวมใส่ ยังมีคราบเลือดผู้ตายติดอยู่ ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจยึดมีดแหลมติดคราบเลือด ยาวประมาณ 1 ฟุต ที่โยนทิ้งที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านจั่น ก่อนควบคุมตัวไปบ้านเกิดเหตุ
จากการสอบถามญาติ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า น.ส.เบียร์ และ นายท็อป เป็นสามีภรรยากัน มีลูกสาวอายุ 10 ขวบ 1 คน เมื่อ 3 เดือนก่อน ทั้งคู่ได้ทะเลาะกันและแยกกันอยู่ นายท็อป ได้กลับไปอยู่บ้านที่ บ้านเครือหวายดิน ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี แต่ก็ยังตามมาง้อขอคืนดีภรรยาอยู่ประจำ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ทะเลาะกันถึงขั้นมีการแจ้งความไว้ที่โรงพัก เนื่องจากนายท็อป มีการข่มขู่เอาชีวิต น.ส.เบียร์ และครอบครัว จนกระทั่งวันนี้ ได้กลับมาก่อเหตุแทง น.ส.เบียร์ จนเสียชีวิต ซึ่งมีภาพวงจรปิดในหมู่บ้าน สามารถบันทึกภาพนายท็อป ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในหมู่บ้าน และขับหลบหนีหลังก่อเหตุ
นายสมชัย มีสัตย์ธรรม อายุ 26 ปี น้องชายคนตาย เล่าว่า ตอนนั้นตนนอนเล่นอยู่ในห้อง พี่สาวออกไปกินข้าวกับเพื่อนบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นนายท็อป ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้าน มาตะโกนเรียกพี่สาว แล้วเขาก็เข้ามาคุยกันในบ้าน ไม่นานพี่สาวก็ร้องขอความช่วยเหลือ ตนได้เปิดประตูห้องออกมา ก็เห็นพี่สาวถูกแทงแล้ว พอนายท็อปเห็นตน และกำลังจะแทงซ้ำ เขาก็รีบวิ่งออกไปทันที ไม่รู้หนีไปทางไหน พี่สาวกับนายท็อปทะเลาะกัน ไล่นายท็อปกลับบ้านไป 2 – 3 เดือนแล้ว เขาคงมาเคลียร์กันเรื่องครอบครัว แต่ก็มาก่อเหตุแทงพี่สาวจนตาย
ด้าน นางคำมูล อุไรศรี อายุ 71 ปี ป้าคนตาย เล่าว่า ตนกำลังกินข้าวเที่ยงกันอยู่ 4 คน ล้อมวงกินส้มตำกัน จากนั้นตนได้เดินออกมาซื้อน้ำแข็งที่ร้านค้า เห็นนายท็อป ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน น.ส.เบียร์ ตนก็เลยบอกให้ น.ส.เบียร์ ออกมาคุยกัน ย้ำว่าให้คุยกันดีๆ เพราะที่ผ่านมา เขาทะเลาะกัน ตีกันบ่อย น.ส.เบียร์ ก็บอกตนว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้เรียกรถพยาบาลให้ด้วย ตนก็เลยเดินกลับเข้าบ้านไปกินข้าว ไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องโวยวาย ขอความช่วยเหลือ ไม่นึกว่านายท็อปจะกล้าทำถึงขนาดนี้ แต่ที่ผ่านมาเขาก็เคยขู่ฆ่าครอบครัวนั้นมาแล้ว แม้แต่ตนก็ขู่จะฆ่า จะมายิงตน เพราะตนเคยดุด่านายท็อปเรื่องนี้ด้วย
ด้าน นายสุพจน์ อุไรศรี อายุ 32 ปี ลูกพี่ลูกน้องคนตาย เล่าว่า ตนหยุดงาน จึงไปซื้อส้มตำมากินตอนเที่ยงกับแม่และแฟน ผ่านหน้าบ้าน น.ส.เบียร์ ก็ชวนมากินด้วย เพราะสนิทกันเป็นญาติกัน แม่ออกไปซื้อน้ำแข็งแล้ว ก็มาบอกว่า นายท็อปมาหา ตนห้าม น.ส.เบียร์ อยู่ว่าจะออกไปทำไม แต่ น.ส.เบียร์ ก็บอกถ้ามีอะไรก็เรียกรถพยาบาลมาด้วย ตนก็บอกว่าอีกว่า มีอะไรให้ร้องดังๆ เดินออกไปไม่ถึง 2 นาที ก็ได้ยินเสียงร้องว่า น.ส.เบียร์ ถูกแทง พวกตนก็รีบวิ่งไปดู นายท็อปก็หนีไปแล้ว
ต่อมา ตำรวจควบคุมตัวนายท็อป ไปบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนที่ประกอบคำรับสารภาพ แต่เนื่องจากยังมีญาติ และชาวบ้านอยู่จำนวนมาก หวิดโดนญาติเมียรุมประชาทัณฑ์ แม่ผู้ตายตะโกนด่า สาปแช่ง ขอให้ประหารชีวิต ส่วนลูกสาวผู้ตาย ร้องไห้ด่าพ่อ ตำรวจจึงต้องประเมินสถานการณ์ ขอให้ญาติอยู่ในความสงบให้ผู้ต้องหาทำแผน โดยเริ่มจาก ผู้ต้องหาขี่ จยย.มาจอดหน้าบ้าน พอเมียออกมาพบ ก็บอกให้เมียไปเอากระปุกเงิน และสิ่งของส่วนตัวมาให้ เมียได้ทำตาม เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเอาสิ่งของที่ผู้ต้องหาต้องการ แต่ผู้ต้องหาได้ลงจากรถเดินตามเมียเข้าไปในห้อง พร้อมกับใช้มีดจ้วงแทงเมีย 8 แผล แล้ววิ่งออกมาทางประตูหลังบ้าน ไปขี่รถ จยย.หลบหนี โดยเอามีดไว้ที่ช่องเก็บของด้านหน้า ขณะขี่รถหลบหนี มีดได้ตกหล่นระหว่างทาง จึงหนีมาถึงบ้านเพื่อตั้งหลัก เพราะเชื่อว่าไม่นานตำรวจก็จะตามมาจับ โดยตำรวจใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที จากนั้นได้คุมตัวไปโรงพักเพื่อดำเนินคดี เมื่อมาถึงโรงพัก ตำรวจนำโทรศัพท์มือถือของ น.ส.สุกัญญา ผู้ตายมาเปิดดู พบว่าเช้าวันนี้ ก่อนเกิดเหตุ นายท็อป ได้ทักแชทมาหาผู้ตาย เวลา 08.30 น. แต่ผู้ตายให้นายฤทธิพรมาหย่า ส่วนใหญ่จะเป็นการทะเลาะกัน และมีการวิดีโอคอลคุยกันด้วย กระทั่งผู้ก่อเหตุบุกมาบ้าน แล้วกระหน่ำแทงเมียตาย
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า สามีภรรยาแยกทางกันไปเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ทั้งสองจะมีเรื่องทะเลาะกันประจำ ก่อนเกิดเหตุภรรยาโทรไปขอให้สามีมาจดทะเบียนหย่า สามีได้เดินทางมาพร้อมกับมีด และเรียกให้ภรรยาออกมาพบ ขณะที่ภรรยาเดินเข้าไปเอากล่องเงินในห้อง สามีได้เดินตามเข้าไป แล้วใช้อาวุธมีดแทง 8 แผล หลังแทงเสร็จได้ขี่ จยย.หลบหนีไป ซึ่งตำรวจได้ติดตามไปจับตัวที่บ้าน อยู่ห่างออกไป 5 กม. พร้อมรถ จยย.และอาวุธมีด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สารภาพว่าทำไปด้วยอารมณ์โมโห โกรธที่มีภรรยาเร่งรัดให้จดทะเบียนหย่า ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
ที่มา : ไทยรัฐ
